วันนี้ทาง admin จะมาแนะนำคลีนิคยุติการตั้งครรภ์ไม่พร้อมที่ปลอดภัย โดยสถานที่แห่งที่นี้ที่พี่admin อยากจะแนะนำก็คือ สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน สาขาเชียงราย นั่นเองค่ะ เพราะที่นี้มีแพทย์อาสา พยาบาล และทีมสหวิชาชีพ อยู่หลายคน รับรองว่าให้บริการที่เป็นมิตรและปลอดภัยสำหรับผู้หญิงแน่นอนจ้า (น้องๆ สามารถตรวจสอบสถานบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยในจังหวัดเชียงรายได้ที่ http://clinicmorpornkwan.com

โดยวันนี้เราเอาใจผู้ที่ท้องไม่พร้อมทางภาคเหนือกันบ้างและเราก็มากันที่จังหวัดเชียงรายเลยค่ะ เพราะว่ามีน้องๆ จากภาคเหนือหลายคนเข้ามาปรึกษาในเว็บของพี่ admin จำนวนมาก และจังหวัดเชียงรายก็มีแพทย์อาสา พยาบาล และทีมสหวิชาชีพ อยู่หลายคน รับรองว่าให้บริการที่เป็นมิตรและปลอดภัยสำหรับผู้หญิงแน่นอนจ้า (น้องๆ สามารถตรวจสอบสถานบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยในจังหวัดเชียงรายได้ที่นี่ได้เลยค่ะ สำหรับสถานบริการยุติการตั้งครรภ์ไม่พร้อมที่ปลอดภัย คือสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน สาขาเชียงราย นั่นเองค่ะ

2. สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน สาขาเชียงราย :
ตั้งอยู่เลขที่ 620/25 ถ.ธนาลัย ต.เวียง อ.เมืองจ.เชียงราย 57000
เปิดบริการ วันจันทร์-ศุกร์  เวลา 8.30-17.00 น.
สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ 053 – 711475 ต่อ 200
***แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องระวัง คือ เมื่อเดินทางมาถึงแล้ว อาจจะเจอคนขับรถตุ๊กตุ๊กที่ไม่หวังดีมาจอดอยู่หน้าคลินิก แล้วแอบอ้างพาไปรับบริการคลินิกเถื่อน ซึ่งไม่ปลอดภัยแน่นอนค่ะ

การเดินทางไม่ยากเลยจ๊ะ คลินิกอยู่ในอำเภอเมือง ข้างวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงรายหรืออยู่เยื้องสวนตุงเชียงรายและโคมเชียงราย ถ้ามาถึงแล้วไม่ต้องแปลกใจนะคะว่าที่นี่ใช่คลินิกจริงๆ หรือเปล่า จุดสังเกตคลินิกจะเป็นตึกสีขาว 4 ชั้น ด้านหน้าชั้น 1 เป็นร้านอาหารชื่อว่า Cabbages & Condoms Restaurant

เอ้า! แล้วทางเข้าคลินิกอยู่ไหนล่ะ? ใจเย็นๆ จ้า คลินิกจะอยู่ชั้น 2 นะค่ะ ต้องเดินมาตรงลานจอดรถของตึกที่ติดร้านอาหารจะเจอป้ายบอกว่า คลินิกชุมชน เดินตามลูกศร ขึ้นไปได้เลย

พอเดินขึ้นบันไดมาจะเจอเคาน์เตอร์เลย  ให้น้องเข้าไปแจ้งพี่ๆ พยาบาลว่า มาปรึกษาเรื่องการตั้งครรภ์ไม่พร้อมค่ะ หลังจากนั้นพี่พยาบาลจะพาเข้าไปในห้องให้คำปรึกษาทางเลือกและทำการประเมินสุขภาพจิตและสุขภาพกายว่า ผ่านตามกฏเกณฑ์เงื่อนไขที่จะให้บริการหรือไม่ ซึ่งมีกฎเกณฑ์เงื่อนไข ดังนี้

1.อายุครรภ์ต้องไม่เกิน 12 สัปดาห์
2.ถ้าน้องๆ อายุน้อยกว่า 18 ปี ต้องพาผู้ปกครองมาด้วย อาจจะเป็นญาติ เพื่อนหรือแฟนที่อายุเกิน 18 ปีก็ได้
3.กรณีติดเชื้อ HIV ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน

หลังจาก น้องๆ ผ่านการประเมินแล้วก็สามารถรับบริการจากทีมแพทย์ได้ ซึ่งขั้นตอนแรกจะมีการตรวจอัลตราซาวน์เพื่อทราบอายุครรภ์ที่แน่นอนก่อน หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์

ภาพบรรยากาศภายในห้องตรวจก็จะเต็มไปด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ค่ะ ซึ่งที่นี่จะใช้วิธียุติอยู่ 2 วิธี  วิธีแรก คือ การดูดเนื้อรกจากโพรงมดลูก อายุครรภ์ต้องไม่เกิน 12 สัปดาห์ เมื่อยุติเสร็จแล้วไม่ต้องพักค้างคืนสามารถกลับบ้านได้เลย  อีกวิธีคือ การใช้ยายุติการตั้งครรภ์ อายุครรภ์ไม่เกิน 9 สัปดาห์ อันนี้ถ้ามาตอน 9โมงเช้า บ่ายๆก็ได้กลับบ้านแล้วค่ะ

หลังจากยุติเสร็จแล้วก็จะให้นอนพักฟื้นร่างกายก่อนกลับบ้าน และด้วยความเป็นห่วงจากคุณหมอก็จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีคุมกำเนิดกึ่งถาวรสำหรับน้องๆ ด้วยจ๊ะ เช่น การฝังยาคุมกำเนิดกึ่งถาวร (อาจจะมีค่าใช้จ่ายอยู่นิดหน่อย) สุดท้ายก่อนกลับบ้านเราก็ต้องกลับไปที่เคาน์เตอร์จุดเริ่มต้นอีกครั้งเพื่อจ่ายเงินและรับยา

หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วเราจะเตรียมเงินไปเท่าไหร่ดี ค่ารักษาประมาณ 3900-4900 บาท รวมค่าอัลตร้าซาวน์แล้ว ซึ่งราคานี้ขึ้นอยู่กับอายุครรภ์และค่าบริการพักนอนในวันที่ 2 ด้วยค่ะ

สุดท้ายทางพี่ admin ขอแนะนำว่า ควรพาผู้ปกครอง ญาติหรือเพื่อนที่สนิทไปด้วยจะดีที่สุด ซึ่งทางคลินิกเองก็มีบริการห้องพักรับรองให้ด้วย เลือกได้เลยว่าจะนั่งในห้องแอร์เย็นๆ หรือห้องพัดลมแบบชิวๆ ภายในห้องก็จะมีทีวีให้ดู มีหนังสือให้อ่านไม่ต้องกลัวเบื่อ กลัวเหงากัน

          Misoprostol มีสาร prostaglandins มีผลทำให้เกิดการหดตัวของมดลูกซึ่งผลของมันก็ืคือทำให้เกิดการแท้งลูกนั่นเอง มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะใช้ในการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย
          หากคุณต้องการใช้ยาตัวนี้ คุณควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยของคุณเอง ยานี้สามารถผ่านเข้าไปในเต้านมได้ ซึ่งผู้ผลิตระบุว่ามันไม่ควรจะถูกใช้โดยผู้หญิงที่ให้นมบุตร

          ยารักษาโรคบางอย่างไม่ควรจะใช้ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร แต่ยารักษาโรคอื่น ๆ อาจจะนำมาใช้อย่างปลอดภัยในการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
คุณควรปรึกษาแพทย์หากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนการตั้งครรภ์ก่อนที่จะใช้ยาใด ๆ
ไซโตเทค (Cytotec) ไม่ควรใช้กับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือผู้ที่กำลังวางแผนการตั้งครรภ์เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ (มันจะถูกใช้โดยผู้เชี่ยวชาญในการยุติการตั้งครรภ์)

ประเทศใดบ้างอนุญาตทำแท้งถูกกฎหมาย?

          หลังจากสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ผ่านกฎหมายอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถทำแท้งด้วยการใช้ยาได้เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทำได้เฉพาะในเงื่อนไขที่จำกัดมาก รายงานชิ้นนี้จะพาไปดูว่า ประเทศใดบ้างที่ให้สิทธิผู้หญิงทำแท้งได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
กฎหมายการทำแท้งฉบับใหม่ของไอร์แลนด์ ระบุว่า ผู้หญิงสามารถทำแท้งได้อย่างถูกกฎหมายก็ต่อเมื่อแพทย์ 3 คนลงชื่อรับรองอย่างเป็นเอกฉันท์ ว่าหากปล่อยให้ตั้งครรภ์ต่อไป ผู้หญิงอาจมีอันตรายถึงชีวิต
          ในขณะที่ผู้ต่อต้านการทำแท้งในไอร์แลนด์ต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ ผู้สนับสนุนสิทธิการทำแท้งจำนวนมากก็โจมตีกฎหมายฉบับนี้เช่นกัน โดยกล่าวว่ากฎหมายให้สิทธิผู้หญิงอย่างจำกัดมาก ภายใต้กฎหมายนี้ ผู้หญิงที่ถูกข่มขืนจนตั้งครรภ์ ผู้หญิงที่ทารกในครรภ์พิการ และผู้หญิงที่ครรภ์เป็นพิษจนมีอันตราย แต่ไม่ถึงชีวิต ก็ยังไม่มีสิทธิทำแท้ง
หากไม่นับนครรัฐเล็กๆ อย่าง วาติกัน มอลตา และอันดอร์รา ไอร์แลนด์เป็นเพียงประเทศเดียวในยุโรปที่ยังจำกัดสิทธิผู้หญิงในการทำแท้งอย่างเคร่งครัด ประเทศในยุโรปส่วนใหญ่อนุญาตให้ผู้หญิงทำแท้งได้เสรีในระยะตั้งครรภ์ไม่เกิน 3 เดือน หากเกิน 3 เดือน ผู้หญิงยังสามารถทำแท้งได้ ถ้าแพทย์เห็นว่าการตั้งครรภ์อาจกระทบต่อสุขภาพทางร่างกาย หรือจิตใจของหญิงเจ้าของครรภ์ รวมถึงเด็กในท้องเสี่ยงจะพิการ หรือผู้หญิงอายุต่ำกว่า 14 ปี
          สหรัฐอเมริกาและแคนาดา ก็ให้สิทธิทำแท้งค่อนข้างเสรี แม้ว่าแต่ละมลรัฐของสหรัฐฯ จะมีข้อจำกัดต่างกันอยู่บ้างสำหรับกรณีท้องแก่
ในทางตรงกันข้าม ประเทศในทวีปแอฟริกาเกือบทั้งหมดยังจำกัดสิทธิการทำแท้งอยู่มาก รายงานของสหประชาชาติเปิดเผยว่า ประเทศในทวีปแอฟริกา 54 ประเทศ มีเพียง 3 ประเทศเท่านั้นที่ให้สิทธิผู้หญิงทำแท้งได้เสรี ได้แก่ ตูนิเซีย แอฟริกาใต้ และเคปเวิร์ด
          ประเทศในอเมริกาใต้ ซึ่งส่วนใหญ่ประชากรนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ก็จำกัดสิทธิในการทำแท้ง ประเทศที่เป็นข้อยกเว้นคือ กายอานา ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมอังกฤษ และมีประชากรกว่าครึ่งนับถือคริสต์นิกายแองกลิกัน ประเทศในตะวันออกกลางส่วนใหญ่ก็ยังจำกัดสิทธิในการทำแท้งเช่นกัน แม้แต่ในประเทศมุสลิมที่ร่ำรวยและเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ อย่างกาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้หญิงก็ยังมีสิทธิทำแท้งได้เพียงกรณีเดียว คือในกรณีที่การตั้งครรภ์อาจทำให้เสียชีวิตเท่านั้น
อย่างไรก็ดี มีประเทศที่เป็นข้อยกเว้นอยู่บ้าง ตุรกี ซึ่งเป็นประเทศที่คนส่วนใหญ่เป็นมุสลิม แต่รัฐไม่ยอมให้หลักศาสนาเข้ามากำหนดกฎหมาย ให้สิทธิผู้หญิงในการทำแท้งเทียบเท่าประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป นอกจากนี้ ตูนิเซียและบาห์เรนก็ให้สิทธิผู้หญิงทำแท้งได้ค่อนข้างเสรี
          ประเทศมุสลิมในเอเชียกลาง เช่น คาซัคสถาน อุซเบกิซสถาน คีร์กีซสถาน และเติร์กเมนิสถาน ก็ให้สิทธิผู้หญิงทำแท้งได้อย่างเสรีเช่นกัน
หากไม่นับตะวันออกกลาง ทวีปเอเชียนับว่าเป็นทวีปที่ให้สิทธิผู้หญิงทำแท้งค่อนข้างมาก มี 17 ประเทศที่ให้สิทธิผู้หญิงทำแท้งได้ค่อนข้างเสรี จีน อินเดีย เกาหลีใต้ มองโกเลีย กัมพูชา สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศในเอเชียกลางเกือบทั้งหมดเปิดให้ทำแท้งได้อย่างถูกกฎหมาย
          ประเทศในเอเชียที่ยังจำกัดสิทธิทำแท้ง ส่วนใหญ่มักเป็นประเทศเคร่งศาสนา ไม่ว่าศาสนาอิสลาม เช่น บรูไน บังกลาเทศ และอินโดนีเซีย หรือศาสนาพุทธ เช่น ศรีลังกา ภูฏาน และเมียนมาร์ และศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก เช่น ฟิลิปปินส์
          ในประเทศไทย กฎหมายอนุญาตให้ผู้หญิงทำแท้งได้ในกรณีที่การตั้งครรภ์ต่อไปจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้หญิง หรือในกรณีที่ผู้หญิงถูกทำให้ตั้งครรภ์โดยวิธีผิดกฎหมาย เช่น ถูกข่มขืน แต่กฎหมายไทยก็ยังไม่ยอมให้ผู้หญิงทำแท้งในกรณีที่ทารกในครรภ์พิการ หรือในกรณีที่ผู้หญิงไม่พร้อมด้วยวัยวุฒิ และทุนทรัพย์ที่จะมีลูก
ตามข้อมูลของสหประชาชาติ ประเทศพัฒนาแล้วกว่าร้อยละ 82 อนุญาตให้ผู้หญิงทำแท้งด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่อนุญาติ